หมูยอ/ไก่ยอ

ยำหมูยอเมนูที่หลายๆ คนชอบ นกเองก็ชอบเช่นกัน แต่อยู่ต่างแดนจะหาหมูยอ ส. ขอนแก่น ได้ที่ไหนกัน หรือถ้ามีขายก็ไม่สบายใจเรื่องสารกันบูดอีก เมืือหาซื้อไม่ได้อยากกินก็ต้องทำเอง และแล้วนกก็ได้หมูยอกินสมใจเลยอยากเอามาแบ่งปันเพื่อนๆ ชาวครัว เผื่อว่าหาหมูยอไม่ได้เช่นกัน



ส่วนผสม
เนื้อหมู 1/2 กก
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ชช
พริกไทยป่น 1-2 ชช (แล้วแต่ชอบ)
กระเทียม 4-5 กลีบ
น้ำตาลทราย 2 ชช
ผงฟู 1/2 ชช
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

วิธีทำ
1.เอาเนื้อหมูไปแช่ให้เย็นจัด แล้วนำไปปั่นใน Food Processor จนละเอียด

2.
จากนั้นใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปปั่นให้เข้ากัน ช่วงนี้เนื้อหมูจะเริ่มคลายความเย็น ให้ใส่น้ำแข็งทุบละเอียดลงไปปั่นจะทำให้หมูยอเหนียวขึ้น
3.
นำหมูที่ได้ห่อด้วยใบตอง (นกไม่มีใบตอง) ห่อด้วยถุงพลาสติกทนความร้อน หรือถ้าไม่มีใช้กล่องพลาสติกแบบทนความร้อนแทน อัดเนื้อหมูให้แน่นอย่าให้มีรช่องอากาศข้างใน เพราะจะทำให้หมูยอเนื้อไม่แน่นสวย 4.นำหมูไปนึ่งประมาณ 25-30 นาที หรือจนกระทั้งหมูสุกค่ะ เสร็จแล้วพักให้เย็นเท่านี้ก็ได้หมูยออร่อยๆ ไว้ยำ หรือจะนำใส่ในก๋วยเตียวก็อร่อยแล้วละค่ะ


***บางคนทำหมูยอจะใส่มันหมูลงไปด้วย แต่ของนกที่ทำไม่ได้ใส่แต่นกใช้เนื้อติดมันนิด ๆ มาทำนะค่ะ แต่ทำเฉพาะเนื้อแดงก็ได้เช่นกันแล้วแต่จะชอบนะค่ะ ส่วนไก่ยอก็ใช่สูตรและวิธีทำเหมือนกัน ๆ กันค่ะ สิ่งที่สำคัญเนื้อจะต้องเย็นจัด เนื้อที่เราบดจะนุ่มเหนียวกรอบอร่อยค่ะ นี้เป็นหมูยอที่นกทำใหม่ๆ เลยหั่นมาให้ชมกันค่ะ***






ฮือก้วย /ลูกชิ้นปลาแผ่น/ปลาเส้น

ฮือก้วย/ลูิกชิ้นปลาแผ่น หรือปลาเส้น ชื่อเหล่านี้คิดว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นหู หรือเคยได้ยิน ได้รู้จักกันมาบ้าง เค้าจะใส่ในก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟร์นี้จะเห็นบ่อยที่สุด หรือไม่ก็เอาไปย่างกินกับน้ำจิ้มรสแซบยิ่งอร่อยอย่าบอกใครเชี่ยวค่ะ ที่บ้านนกเองเวลาทำใหม่ ๆสด ๆ พอสุกก็หั่นจิ้มน้ำจิ้มกันเลย ส่วนที่เหลือจะแช่แข็งเอาไว้ใช้เวลาทำก๋วยเตียวนะค่ะ ปลาเส้นที่บ้านสองสามเดือนจะทำสักครั้ง ไม่ได้ทำบ่อยๆ อย่างที่บอกเอาไว้ใส่ก๋วยเตียวนิด ๆ หน่อยๆ พอเป็นพิธี อย่างวันนี้ทำเสร็จก็แล้วแช่แข็งเอาไว้ ทำก๋วยเตียวอีกเมื่อไรก็เอาออกจากทิ้งไว้ให้น้ำแข็งละลาย จากนั้นก็ลวกน้ำร้อนนิดหน่อยใส่ลงในชามก๋วยเตียว เ่ี่ท่านี้ก็อร่อยแล้วละค่ะ






ส่วนผสม
เนื้อปลาสด 1 กก.
เกลือ 1 ชช
น้ำตาลทราย หยิบมือ
พริกไทยป่น หยิบมือ
ผงฟู 1/2 ชช
น้ำเย็นจัด 4 ชต

วิธีทำ
1. นำมาที่ได้มาล้างทำความสะอาด แล่และขูดเอาแต่เนื้อปลาล้วน ๆ นำเนื้อปลาที่ได้ไปบดให้ละเอียด
2. ผสม เกลือ น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผงฟู และน้ำเย็นจัด คนละลายให้เข้ากัน
3. นำไปผสมกับเนื้อปลา บดให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นนำออกจากเครื่องบด แล้วนำมานวดต่ออีกประมาณ 10 นาที คลุมด้วยพสาสติกเอาเข้าช่องแช่แข็ง แช่ไว้ประมาณอีก 30 นาที หรือจะช่องแช่เย็นธรรมดาในตู้เย็นก็ได้ ประมาณ 1-2 ชม
4. พอครบกำหนดนำเนื้อปลามาปั้นให้เป็นเส้นทรงกลม หรือสี่เหลี่ยมตามชอบ จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที หรือจนกระทั้งปลาสุก พักทิ้งไว้จนเย็น
5. เมื่อครบกำหนดนำไปทอดให้เหลือสุกสวย ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันทิ้งไว้จนเย็นตัดเป็นเส้นๆ บางหนา ตามชอบ เท่านี้นกก็ได้ลูกชิ้นปลาเส้นกินคู่กับก๋วยเตียว หรือจะลวกกินกับน้ำจิ้มแซบ ๆ ยกเสริฟแฟนคลับแล้วละค่ะ

***จานนี้เป็นปลาเส้นที่นกทำเสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ จะได้เห็นเนื้อด้านในของปลาเส้นชัด ๆ ไปเลย เพื่อนๆ คนไหนมีปลาเยอะ ลงทำดู ดีกว่าเราไปซื้อทำง่ายไมยากเลย หรือไม่เวลาเพื่อนๆ ทำลูกชิ้นปลาแล้วแบ่งส่วนมาทำปลาเส้นบ้างก็ได้ค่ะจะได้มีหลากหลายในชามก๋วยเตี๋ยวของเรากันนะค่ะ***







ส่วนชามนี้ก็เป็นมาม่าหมูสับ ใส่ปลาเส้นค่ะ




ข้าวเกรียบมันฝรั่ง/ ข้าวเกรียบกุ้ง

ช่วงนี้นกมีเวลาว่างเยอะ เลยจัดโน่นนี้ไปเรื่อยโดยเฉพาะห้องครัว รื้อข้าวของปรับเปลี่ยนมุม รื้อไปมาไปเจอะแป้งมัน 2 ถุง ที่เพื่อนแฟนคลับซื้อให้นานจนนกลืมไปเลยค่ะ มีเยอะขนาดนี้ ทำอะไรดีเมนูที่ใช้แป้งมันเยอะขนาดนี้ มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือข้าวเกรียบ ไม่รอช้าจัดการเลย วันนี้นกเลือกทำข้าวเกรียบมันฝรั่ง กับข้าวเกรียบกุ้งค่ะ


ส่วนผสมข้าวเกรียบกุ้ง

เนื้อกุ้งสด (ปอกเปลือก) 1 ถ้วย

กระเทียมโขลกละเอียด 2 ชต

พริกไทยปน 1 ชช
เกลือปน 1 ชช
แป้งมัน 2 ถ้วย

น้ำเดือด 1/2 ถ้วย


วิธีทำ

1.โขลกกุ้งให้ละเอียด ใส่กระเทียม พริกไทย เกลือ โขลกให้เข้ากัน

2. ผสมกุ้งกับแป้งมันให้เข้ากัน นวดให้นิ่ม ถ้าแป้งยังแข็งให้ใส่น้ำเล็กน้อยพอให้แป้งจับตัวปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้น นำแป้งมาปั้นให้เป็นรูปกลมยาว

3.ปูผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดในลังถึง วางส่วนผสมที่ปั้นไว้ตรงกลางนึ่ง โดยใช้ไฟแรงประมาณ 1 ชมหรือจนกระทั้งสุก จากนั้นก็นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 4-5 ชม (ให้แป้งแข็งตัวเพื่อจะได้หั่นง่าย ๆ แต่อย่าให้แข็งตัวมากเกิืนไปจะหั่นยาก หรืออ่อนตัวเกินไปก็จะติดมือหั่นไม่ได้)

4.จากนั้นก็นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา1วัน เอาออกมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำตากให้แห้งสนิท ประมาณ 1-2 แดด (ที่บ้านไม่ค่อยมีแดด เลยตากประมาณ 2 วัน) จากนั้นนำไปทอดได้เลยค่ะ
5.เวลาทอดใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ทอดน้ำมันมาก ใส่ข้าวเกรียบทีละน้อย ช้อนข้าวเกรียบตลอดเวลา ให้ข้าวเกรียบพองเสมอกันทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน พักให้เย็นแล้
วนำบรรจุถุง เท่านี้ก็ได้ข้าวเกรียบอร่อยๆ ไว้เลี้ยงในงานสังสรรแล้วละค่ะ

***นอกจากข้าวเกรียบกุ้งแล้ว นกยังทำข้าวเกรียบฟักทอง ข้าวเกรียบมันฝรั่ง ข้าวเกรียบแครรอท ซึ่งส่วนผสมและวิธีการทำคล้าย ๆ กับข้าวเกรียบกุ้ง แต่จะไม่มีส่วนผสมของน้ำเดือด เพราะผักจะมีน้ำอยู่ในตัวแล้ว การใส่ส่วนผสมของผักจะใส่สัดส่วนของ ผักให้น้อยกว่าสัดส่วยของแป้ง ครึ่งหนึ่ง เช่นข้าวเกรียบฟักทอง ถ้าใช้แป้งมัน 2 ถ้วย เนื้อฟักทองบดจะใช้ 1 ถ้วย เป็นต้น การทำข้าวเกรียบผัก จะต้องบดผักที่ใช้่อย่างละเอียด แล้วนำมาผสมกับแป้งในขณะที่ผักบดยังร้อนอยู่ไม่ต้องคอยให้เย็นนะค่ะ และจะต้องใส่น้ำมันพืชลงไปสักเล็กน้อย เพื่อให้แป้งนวลไม่ติดมือ การนวดส่วนผสมจะต้องไม่เหลวเกินไป หรือแข็งเกินไป นะค่ะ***


ส่วนผสมของข้าวเกรียบมันฝรั่ง
เนื้อมันฝรั่งบด 1/2 ถ้วย แป้งมัน 1 ถ้วย
กระเทียมโขลกละเอียด 2 ชต

พริกไทยปน 1 ชช

เกลือปน 1 ชช

น้ำมันพืช เล็กน้อย


วิธีทำ
1.โขลกกระเทียม พริกไทย เกลือ โขลกให้ละเอียดเข้ากัน

2.ต้มมันฝรั่งแล้วนำมาบด จากนั้นนำไปแป้งมัน กระเทียมที่โขลกละเอียดไว้แล้ว นวดให้นิ่ม ถ้าแป้งยังแข็งให้ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยพอให้แป้งจับตัวปั้นเป็ นก้อนได้ จากนั้น นำแป้งมาปั้นให้เป็นรูปกลมยาว
3.ปูผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดในลังถึง วางส่วนผสมที่ปั้นไว้ตรงกลางนึ่ง โดยใช้ไฟแรงประมาณ 1 ชมหรือจนกระทั้งสุก จากนั้นก็นำพาสติกมาพันหุ้มให้เรียบร้อย พักให้เย็นแล้วไปแช่ไว้
ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 4-5 ชม (ให้แป้งแข็งตัวเพื่อจะได้หั่นง่าย ๆ แต่อย่าให้แข็งตัวมากเกิืนไปจะหั่นยาก หรืออ่อนตัวเกินไปก็จะติดมือหั่นไม่ได้)
4.จากนั้นก็นำไปแช่ไว้ในตู้เย็น ช่องธรรมดา1วัน เอาออกมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำตากให้แห้งสนิท ประมาณ 1-2 แดด (ที่บ้านไม่ค่อยมีแดด เลยตากประมาณ 2 วัน) จากนั้นนำไปทอดได้เลยค่ะ

5.เวลา ทอดใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ทอดน้ำมันมาก ใส่ข้าวเกรียบทีละน้อย ช้อนข้าวเกรียบตลอดเวลา ให้ข้าวเกรียบพองเสมอกันทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน พักใ ห้เย็นแล้วนำบรรจุถุง เท่านี้ก็ได้ข้าวเกรียบอร่อยๆ ไว้เลี้ยงในงานสังสรรแล้วล ะค่ะ