แยมแอปเปิ้ล

ช่วงนี้เป็นหน้าแอปเปิ้ลค่ะ หันไปทางไหนก็เห็นแต่แอปเปิ้ลเต็มต้นไปหมด บางบ้านมีเยอะจริงๆ เลยไม่สนใจปล่อยให้นกกามากิน หรือไม่ก็ปล่อยให้ล่วงหล่นเน่าเสียไป นกเห็นแล้วเสียดายจริงๆ ยังพูดกับแฟนคลับเลยค่ะทำไม่เค้าไม่เอาไปทำบ้างหรือ แฟนคลับบอกว่ามันมีเยอะเกินก็เลยเค้าไม่รู้จะเอาไปทำอะไรเหมือนกันนะซิ ที่นี้เค้าแบ่งชนิดของแอปเปิ้ลนะค่ะมีหลากหลายชนิดเลยทีเดียว อย่างที่บ้านพ่อแม่แฟนคลับออกลูกดกมากๆ เวลาไปบ้านท่านพ่อแฟนคลับมักจะเก็บใส่ถุงให้ประจำ ครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ แต่นกไม่คิดเลยว่าจะเก็บใส่ถุงให้เต็มถุงเทสโก้สีน้ำเงินน ประมาณ 5-6 กก. ได้มั่งค่ะ หลังจากใช้ทำเป็นไส้พายเสร็จแล้ว นกก็แบ่งเอามาทำทำแยมอีกส่วนหนึ่ง ยังหรืออีกส่วนเก็บเอาไว้ปรุงอาหารอื่น



ส่วนผสม
แอปเปิ้ล 2 กก
น้ำตาลทราย 1/2 กก
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
เกลือป่น พอประมาณ

วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่ลงให้หม้อ หรือภาชนะใบใหญ่ เติมเกลือป่นลงไปพอประมาณ แล้วคนให้เกลือละลาย หั่นปอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ล คว้านไส้ และเม็ดออก จากนั้นนำลงแช่ลงในน้ำเกลือที่เตรียมไว้
2. นำแอ๊ปเปิ้ลที่แช่น้ำเกลือ มาหั่นซอย แล้วสับละเอียดตามชอบ (พยายามให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้)พักไว้
3. เอาแอ๊ปเปิ้ลที่หั่นเตรียมไว้ เทใส่ลงหม้อ หรือกระทะ ยกขึ้นตั้งเตาไฟใช้ไฟอ่อน ให้เนื้อแอ๊ปเปิ้ลสุกนิ่ม โดยใช้ไม้พายกวนไปมา กดบี้เนื้อให้เละ (พยายามกวนให้ทั่วถึงกัน แต่ไม่ต้องกวนบ่อยนะค่ะ)
4. พอเนื้อแอปเปิ้ลสุกนิ่มดีแล้วใส่น้ำตาลลง กวนจนกระทั้งน้ำตาลละลายเข้ากันดีกับเนื้อแอปเปิ้ล ใส่น้ำมะนาวลงไป ชิมรสตามชอบ กวนต่อไปจนกระทั้งน้ำงวดแห้ง (ต้องกวนอยู่ตลอดเวลา)เสร็จแล้วนำบรรจุขวดที่ต้มฆ่าเชื้อไว้แล้ว ปิดฝาขณะที่แยมยังร้อนอยู่
5.นำขวดแยมไปต้มในน้ำร้อนอีกประมาณ 30-45 นาที ครบกำหนดยกขวดออกมาตั้งทิ้งไว้ให้เย็น เสร็จแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นเท่านี้ก็ได้แยมอร่อยแล้วละค่ะ

***แยมที่นกทำสามารถเก็บไว้ได้เป็นเดือนเลยที่เดียวค่ะ เรื่องของความหวานของแยม ถ้าเพื่อนๆ ชิมรสแล้วอยากให้แยมมีรสหวานอีก เพิ่มน้ำตาลลงไปได้นะค่ะ ของนกไม่ได้เพิ่มน้ำตาลเพราะแอปเปิ้ลไม่เปรี้ยเลยไม่ได้เพิ่มน้ำตาล แต่ถ้าแอปเปิ้ลของเพื่อน ๆ มีรสเปรี้ย ไม่ต้องเพิ่มน้ำมะนาวนะค่ะ เพราะมันเปรี้ยอยู่แล้ว วันนี้นกได้แยมประมาณ 4 ขวด แต่นกใส่ขวดไว้ 3 ขวดที่เหลือเอาไปทำขนมอบ และนี้ก็เป็นแอปเปิ้ลที่พ่อแฟนคลับให้มาค่ะ***



ส่วนนี้ก็เป็น Apple Lattiec Pies ไส้แยมค่ะ




มะเขือเทศแช่อิ่มแห้ง/มะเขือเทศเชื่อมแห้ง

นกตั้งหัวเรื่องเอาไว้หลายวันแล้วละค่ะว่าจะเขียนสูตรและโพสให้เสร็จ พอสูตรเขียนเสร็จ ดันไม่ได้ถ่ายรูป หยิบกินเพลินลืมถ่ายตอนเสร็จ เลยต้องคอยทำครั้งใหม่ครั้งนี้ทำเสร็จแล้ว คอยให้มะเขือเทศแห้งสนิท ถ่ายรูปเสร็จก็เอามาลงเสียเลย อย่างที่นกบอกค่ะว่ามีมะเขือเทศที่พ่อแม่ปลูกเอาไว้มีเยอะจริงๆ อยู่กันสองคนปลูกเยอะๆกินไม่ทัน นกเลยได้มะเขือเทศจากสวนพ่อแม่มากินที่บ้านทุกครั้งที่ไปหาเช่นกัน นกเลยต้องหาเมนูมาจัดการกับเจ้ามะเขือเทศ เพื่อไม่ให้เสียของก่อนที่มันจะเน่าคาต้นเสียหมด มะเขือเทศแช่อิ่มแห้ง อยู่เมืองไทยเห็นตามงานเกษตร ซื้อกินแล้วถูกใจในรสชาติ ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าอยู่มาวันหนึ่งได้มีโอกาสทำกับเค้าด้วย หลายๆ อย่างอยู่เมืองไทยของกินบางอย่างซื้อหาได้สะดวกไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก แต่พอมาอยู่ต่างแดนถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน อย่างเจ้ามะเขือเทศแช่อิ่มแห้งที่นกทำพ่อแม่แฟนคลับชอบมาก ๆ เลยที่เดียว ครั้งก่อนทำไปฝากท่านทั้งสองครึ่งกิโล พ่อบอกว่ากินเล่นสองสามวันหมดกล่องโดยไม่รู้ตัว คริ ๆ สงสัยคงต้องชอบเอาจริงๆ เลยละค่ะ เพื่อน ๆ ฝรั่งที่นกเอาไปให้ชิมก็ชอบ มีเพื่อนคนหนึ่งไม่ชอบกินมะเขือเทศเท่าไรพอได้ชิมเข้าก็บอกว่าอร่อยดี นกดีใจนะค่ะที่เมนูไทย ๆ ทำแล้วฝรั่งต่างชาติชื่นชอบ



มะเขือเทศเชอร์รี่ ประมาณ 1 กก
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1/2 ซีก
น้ำปูนใส 2 ถ้วย


วิธีทำ
1. ล้างมะเขือเทศเชอร์รี่ให้สะอาด ผึ่งไว้พอแห้ง จากนั้น ใช้มีดคม ๆ กรีดข้าง ๆ ผลแต่ละลูกกรีด(อย่าให้ขาด) 4-5 แฉก แล้วใช้สันมือกดเบาๆให้เมล็ดข้างในไหลออกมา ทำเช่นนี้จนหมดมะเขือเทศ
2. นำมะเขือเทศที่เตรียมไว้ ไปแช่ในน้ำปูนใส กะให้น้ำปูนใสท่วมมะเขือเทศ ใช้มือกดเบา ๆ ให้น้ำปูนใส่ท่วมมะเขือเทศ แช่ในน้ำปูนใส นานประมาณ 1-2 ชม
3. เมื่อครบกำหนดเวลา นำมะเขือเทศขึ้นบีบส่ายเขย่าเบา ๆ ทีละลูก นำเอามาวางพักให้แค่พอสะเด็ดน้ำ
4. นำมะเขือเทศลงในกระทะทองเหลือง หรือกระทะเทฟลอน ใส่น้ำตาลลงไปในกระทะมะเขือเทศ เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวให้น้ำตาลละลาย เชื่อมจนกว่าน้ำเชื่อมจะงวดเหนียว จากนั้นบีบน้ำมะนาวใส่ลงไปในกระทะมะเขือเทศ ใช้ช้อนตักขึ้นทีละลูก นำเรียงบนตะแกรงนำไปตากแดดจนแห้งสนิท เก็บใส่ขวดหรือใส่กล่อง ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้กินเล่นหรือจะใช้ทำขนมคุ๊กกี้เค้กแล้วแต่จะชอบได้เลยค่ะ

***มะเขือเทศแช่อิ่มแห้งสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือนเลยละค่ะ ที่บ้านเก็บไว้ไม่ถึงเดือนหลอกค่ะนกหยิบกินเล่นไม่กี่วันก็หมด ครั้งนี้กะไว้ว่าจะไม่หยิบกินเล่นทำเสร็จแล้วจะเก็บเอาไว้ใช้ทำขนมไม่รู้จะได้ไม่นะเนี้ย กลัวหยิบกินจนลืมเหมือนครั้งก่อนอีก นึกขึ้นได้ไม่พอใช้ทำขนมเสียอีก***


ซอสมะเขือเทศ

วันนี้นกทำซอสมะเขือเทศอีกรอบแล้วละค่ะ แต่รอบนี้คงเป็นมะเขื่อเทศรุ่นสุดท้ายที่เก็บพร้อมกับความหนาวที่กำลังเข้ามาเยือน มะเขือเทศทั้งหมดนี้ปลูกที่บ้านพ่อแม่แฟนคลับซึ่งแต่ละปีพ่อแม่จะช่วยกันปลูก มีอยู่สองสามชนิด โดยเฉพาะลูกโต ๆ เหมือนกับฟักทองแม่จจะปลูกไว้หลายสิบต้นเลยที่เดียว เรียกว่าเยอะมากๆ ก็ว่าได้ค่ะ ขนาดว่าเก็บกินสด ใช้ประกอบอาหารแล้วก็ยังมีเหลืออีกเยอะ นกเลยเก็บมาทำซอสมะเขือเทศเสียเลย จริง ๆ แล้วซอสมะเขือเทศที่ขายอยู่ตามซุปเปอร์ราคาไม่แพงหรอกนะค่ะ แต่ถ้าเรามีวัตถุดิบอยู่แล้ว ไม่ต้องซื้อหาให้เปลืองเงิน เอาวัตถุดิบที่เรามีมาแปลงสภาพนกคิดว่ามันก็คุ้มค่าดีเพื่อน ๆ ว่าไม่ค่ะ ปีนี้นกทำซอสมะเขือเทศ 3 รอบแล้วค่ะ ปีที่แล้วอากาศดีกว่าปีนี้มะเขือเทศออกเยอะเก็บทำซอสได้ตั้ง 5 รอบ เห็นพ่อแฟนคลับบอกว่าปีนี้อากาศไม่ค่อยจะดีนะค่ะ สำหรับนกไม่เป็นไรค่ะมีเท่าไรก็ก็ทำเท่านั้น



ส่วนผสม
มะเขือเทศสุก 1 กก
หอมใหญ่ 1/2 หัว
กระเทียม 7-8 กลีบ
พริกแดงผ่าเม็ดออก 1 เม็ด
กานพลู 2-3 ดอก
อบเชย 1 ชิ้น (ยาวประมาณ 2-3 นิ้ว)
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำสมสายชู ตามชอบ (นกใช้ไปชิมไปให้ออกรสเปรี้ยวนิด ๆ)
พริกไทยป่น หยิบมือ

วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ตามชอบ หั่นหอมหัวใหญ่ พริก และกระเทียมใส่ลงในหม้อ
2. เอาหม้อขึ้นตั้งบนเตาเปิดไฟค่อนข้างอ่อน ตั้งไฟเคี่ยวจนนุ่ม
3. เมื่อส่วนผสมนุ่มได้ที่ ปิดไฟในเตา ยกออกมาวางพักไว้ให้เย็น เมื่อเย็นแล้วก็นำไปปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่เนื้อ ส่วนกากที่เหลือให้เททิ้งไป
4. นำเนื้อที่กรองแล้วไปเคี่ยวให้งวดสักนิดหน่อย จากนั้นโรยพริกไทยป่น น้ำส้มสายชู กานพูล อบเชย (เครื่องเทศต้องห่อผ้าขาวผูกให้เรียบร้อยแล้วจึงเอาลงต้ม) น้ำตาลทราย และเกลือ ชิมรสตามชอบ จากนั้นเคี่ยวต่อให้งวดจนเหมือนกับซอส
5. เตรียมขวดล้างต้มฆ่าเชื้อเสียก่อน จากนั้นตักซอสขณะยังร้อน ๆใส่ขวดปิดฝาให้แน่นทิ้งไว้ให้เย็นจากนั้นเอาเข้าตู้เย็นได้เลยค่ะ

***ซอสมะเขือเทศที่ทำสามารถเก็บไว้นานประมาณ 1 เดือน ของนกทำทีหนึ่งได้ประมาณสองขวด เดือนหนึ่งกินหมดไม่เหลือ จริงๆ แล้วหมดก่อนหนึ่งเดือนเสียอีก อยากบอกว่าแฟนคลับชอบนะค่ะ แต่ถ้านกทำไปฝากพ่อแม่แล้วก็จะไม่ผสมเครื่องเทศ กระเทียม และพริกลงไปนะค่ะ เพราะท่านทั้งสองไม่ชอบใส่แต่หอมอย่างเดียวก็อร่อยเช่นกันค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใสก็ได้นะค่ะ สำหรับซอสมะเขือเทศของนกจะมีรสเผ็ดนิดๆ ไม่มากค่ะ เด็ก ๆ กินได้ไม่ต้องกังวลนะค่ะ ***


ลูกชื้นหมู

ลูกชิ้นเด้งดึง ๆ มาแล้วจ้า ด้วยความที่เป็นคนชอบอาหารเส้น ดังนั้นลูกชิ้นเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้เลยที่เดียว ทำครั้งหนึ่งเก็บไว้กินหลายวันเลยค่ะ ส่วนใหญ่นกจะแบ่งแช่แข็งเอาไว้ นอกจากจะใส่ในก๋วยเตียวแล้วบางครั้งยังเอามาทอด ปิ้งย่าง ยำ หรือไม่ก็เอามาแกง อยู่เมืองไทยหาซื้อได้ง่าย อยู่ต่างแดนหาซื้อยากแถมยังแพงทำเองดีกว่าปลอดภัยไร้สาร ว่าแล้วเข้าครัวกันเถอะค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมูบดละเอียด 500 กรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำตาล 1 ชต.
แป้งข้าวโพด 2 ชต.
ผงฟู 1 1/2 ชต.
เกลือ 1/2 ชช
น้ำมันพืช 2 ชต.
น้ำเย็นจัด 2 ชต
พริกไทยตามชอบ

วิธีทำ
1 ผสมเกลือ น้ำตาล ซีอิ๊ว แป้งข้าวโพด ผงฟู น้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันใส่ลงไปเนื้อหมูบดละเอียด นวดให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด เติมพริกไทยลงไปแล้วนวดต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
2 นำหมูบดที่นวดเสร็จแล้วแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชม
3.ตั้งกระทะใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรงต้มให้เดือด จากนั้นดับไฟที่ต้มน้ำในกระทะ เอาหมูบดออกมาบีบให้เป็นก้อนกลม แล้วใช้ช้อนตักใส่ลงในกระทะที่มีน้ำร้อนทำแบบนี้จนหมดค่ะ เปิดเตาอีกครั้งต้มต่อใช้ไฟอ่อนที่สุดอย่าให้น้ำในกระทะเดือน
4 เตรียมน้ำเย็นใส่น้ำแข็งไว้1กะละมัง พอลูกชิ้นในกระทะเริ่มลอยลูกชิ้นได้ที่เริ่มจะสุก พอลูกชิ้นสุกได้ที่ตักใส่กะละมังที่ใส่น้ำและน้ำแข็งทิ้งๆไว้สักครู่จากนั้นตักใส่จานหรือกล่องเก็บแช่ตู้เย็นไว้ปรุงกับกว๋ยเตียว หรืออาหารอื่น ๆ ได้เลย

***สุตรนี้ใช้ได้กับทุกเนื้อ แต่ที่บ้านส่วนใหญ่จะมีลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นไก่ และลูกชิ้นไก่งวง ส่วนลูกชิ้นกุ้ง ปลา นกใช้อีกสูตรหนึ่ง แต่ขั้นตอนของการทำลูกชิ้นก็จะคล้าย ๆ กันนะค่ะ***

ลูกชิ้นไก่


ลูกชิ้นไก่งวง




กุนเชียงไร้สาร

นกกลับมาจาก Wales แล้วค่ะเพื่อนๆ ก่อนไปเที่ยว นกติดเมนูกุนเชียงไร้สารเอาไว้ กลับมาถึงก็ลงมือพิมพ์เลยคิดว่าคงจะหายคิดถึงกันนะค่ะ กุนเชียงนี้นกกินอยู่หลายรอบแล้วค่ะ แฟนคลับเองก็ชอบโดยเฉพาะเมนูข้าวผัดกุนเชียงทำกี่ครั้งกี่ครั้งก็มีแต่คำชม แต่แปลกเวลาเอามาทอดกินเปล่ากลับไม่ชอบเป็น งง นอกจากนกจะเอามาทำข้าวผัดกุนเชียงแล้ว ยังเอามายำกินกับข้าวต้มกุ๋ย ข้าวหมูแดง งานนี้ต้องขอบคุณแม่คนเดียวเลยค่ะที่ทำให้ลูกมีกุนเชียงกิน ถึงแม้จะแตกต่างกันแต่พื้น ๆ จะมาจากสูตรของแม่ ดีใจที่เกิดเป็นลูกสาวของแม่ พูดมากคิดถึงแม่อีกแล้วไปเที่ยวอาทิตย์หนึ่งไม่ได้คุยกันเลยพรุ่งนี้ต้องเอ็มคุยกันหน่อยแล้วเรา




ส่วนผสม
หมูสับติดมัน 500 กรัม
เกลือป่น 1 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำตาลทรายแดง 3 ชต
เหล้าจีน 2 ชต
ไส้หมู ตามชอบ
น้ำเปล่า เล็กน้อย (นกใช้ประมาณ 2 ชต)



วิธีทำ
1. ล้างใส้หมูให้สะอาดผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
2. นำหมูสับติดมัน และส่วนผสมทุกอย่างลงในอ่างผสมนวดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
จนเหนียวพักไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรือประมาณ 5-6 ชม
3. เมื่่อหมักได้ที่แล้วกรอกหมูที่ผสมแล้วลงในใส้หมูมัดเป็นข้อๆตามชอบ
จากนั้นนำเข้าเตาอบ อบที่ 50 องศาซี ประมาณ 2 ชมหรือจนกระทั้งกุนเชียงเริ่มแห้ง
และหดเล็กลง จากนั้นปิดไฟในเตาอบค้างกุนเชียงไว้ในเตาอบอีก 2 ชม เปิดประตูแง้มไว้นิด ๆ เพื่อให้อากาศระบาย ครบ 2 ชม สังเกตกุนเชียงจะแห้งแข็ง เอาออกมาแขวนเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องหรือเก็บไว้ในตู้เย็นได้เลยค่ะ

*** กุนเชียงที่นกทำ นกหมักตู้เย็นไว้ 1 คืน ทีบ้านเตาอบค่อนข้างร้อน นกเลยใช้ที่ 50 องศาซี แต่ถ้าบ้านไหนไม่ค่อยร้อนใช้ที่ 60 องศาซี หมั่นดูกุนเชียงขณะอบ วิธีสังเกตกุนเชียงว่าแห้งได้ที่หรือไม่นั้นให้ดูขนาดกุนเชียงที่ลดลง สีของกุนเขียง ถ้ายังไม่แน่นใจให้ตัดเนื้อกุนเชียงออกดู (นกตัดชิมเลยค่ะ) ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่แน่นใจ ให้แขวนตากแดดอีกสักหน่อยก็ได้นะค่ะ เพราะถ้าไม่แห้งกุนเชียงจะขึ้นราเก็บได้ไม่นาน เกือบลืมค่ะถ้าเพื่อนๆ สนใจสูตรข้าวผัดกุนเชียงกดที่ภาพจะไปที่ลิงค์เมนูข้าวผัดกุนเชียงค่ะ***









หมูแดดเดียว

ช่วงนี้อากาศที่บ้านถือว่าดีสุด ๆ เลยค่ะ แดดออกเกือบทุกวันทำให้นึกถึงเมนูข้าวเหนียวหมูแดดเดียวขึ้นมาทันที จริง ๆ ถ้าจะพูดไปแล้วแดดที่ออกมาคงสู้แดดที่เมืองไทยไม่ได้ ตากเช้าถึงเที่ยงก็เก็บได้แล้ว แต่ที่นี้ต้องดูพยากรณ์อากาศให้ดี ๆ กะให้เป็นไม่นั้นเจอฝน แต่อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์อากาศดี เช็คพยากรณ์ตลอดโดยเฉพาะวันนี้อุณหภูมิอยุ่ที่ 25 องศาถือว่าร้อนกว่าทุก ๆ วัน นกตากตอนเช้าเก็บเอาตอนเย็น จะบอกว่าเย็นไม่ได้ซิ เอาว่าเก็บตอนค่ำๆ ไม่มีแดดให้เห็นแล้วนะค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมูสันในหั่นเป็นเส้น 500 กรัม
กระเทียมโขลกละเอียด4-5 กลีบ
พริกไทยป่น 2 ชช
เม็ดผักชีป่น 1 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
งาขาว ตามชอบ (ถ้ามี)
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1 นำเนื้อหมูที่หั่นเรียบร้อยแล้ว หมักด้วยส่วนผสมทั้งหมดหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน
2 ครบกำหนดนำเนื้อวางเรียงบนตะแกรงตากแดดตอนเช้า แล้วเก็บทอดตอนเย็น
3 เอาน้ำมันใส่ในกระทะตั้งบนเตาเปิดไปอ่อนปานกลาง นำเนื้อหมูลงทอดประมาณ 10 นาที หรือจนกระทั้งเนื้อหมูสุก ตักขึ้นวางบนกระดาษซับมัน ยกเสริฟคู่กับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***หาต้องการจะชิมรสให้เอาเนื้อหมูที่หมักเรียบร้อยแล้วนิดหน่อยเข้าไมโครเวป จากนั้นชิมรสดูหาไม่ถูกใจให้เพิ่มเติมที่ต้องการเพิ่มได้เลย งาขาวหากมีให้คลุกพร้อมกับส่วนผสมหมักเนื้อได้เลยค่ะ***


ไข่ครอบ

นกมีเมนูมาแนะนำเพื่อน ๆ ที่ชอบทานไข่แดงเค็ม อยู่ต่างแดนหาซื้อลำบาก หรือเบื่อที่จะต้องใช้เวลาในการดองไข่เค็มนาน กว่าจะได้ทาน ไข่ครอบจึงทางเลือกใหม่ให้กับเพื่อน ๆ ค่ะ



ส่วนผสม
ไข่เป็ด/ไข่ไก่ ตามชอบ
เกลือป่น ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำไข่เป็ดมาลางเปลือกให้สะอาด จากนั้นตอกไข่ให้แยกออกจากกันแบ่งส่วนของไข่ให้พอเหมาะ จากนั้นแยกไข่ขาว และไข่แดงออกจากกัน
2 นำไข่แดงที่แยกไว้ 2 ฟองเทกลับไปในเปลือกไข่เดิม ใส่เกลือลงไปหนึ่งหยิบมือ ถ้าต้องการความเค็มเพิ่มก็ให้เพิ่มเกลือตามชอบ
3 นำเปลือกไข่ที่เหลือด้านหนึ่งมาครอบไข่แดงเอาไว้หมักไว้ 1 คืน ในเกลือซึมเข้าไข่แดง
4 ครบกำหนดนำไข่ไปนึ่งจนกระทั้งสุก ยกเสริฟทานคู่กับข้าวสวย ข้าวต้ม หรือจะนำไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นก็ได้เช่นกัน

***ไข่ครอบวันนี้นกนำไปทำเมนูหมูสับผัดไข่เค็มเลยมีไข่ขาวติดมาด้วยนิดหน่อย ถ้าเพื่อน ๆ สนใจสุตรเมนูหมูสับผัดไข่เค็ม คลิ๊กที่รูปอาหารนะค่ะ เมนูนี้นกเปลี่ยนจากส่วนผสมไข่เค็มเป็นไข่ครอบแทน ก็ได้เมนูเพื่อครอบครัวแล้วละค่ะ ***





ไก่หยอง /หมูหยอง

เมื่อวานแฟนคลับหยุดพักผ่อน เลยชวนกันไปซุปเปอร์ฯ โอ๋แม่เจ้า เนื้อไก่ลดราคา จริงๆ แล้วจะบอกว่าลดราคาคงไม่ถูกเท่าไร เพราะเค้าขาย สองกล่องถึงจะได้ลดราคา ถ้าซื้อกล่องเดียวก็เต็มราคาเหมือนเดิม จัดการหยิบใส่รถเข็นสียเลย 4 กล่อง ตอนซื้อนกไม่คิดว่าจะมาเมนูอะไร คิดแต่ว่ามันถูกดี เดินดูโน่นนี้ไปเรื่อยๆ อยู่ๆแฟนคลับหันมาพูดเรื่องอยากกินขนมปังพริกเผ็ดใส่เนื้อหมูสีน้ำตาล (ขนมปังหมูหยอง) เอางานเข้าละเราของเก่าดันกินไปหมดแล้วเมื่อสองวันก่อน ไม่คิดว่าอยู่ ๆ นึกอยากจะกินขึ้นมา หมูหยองหมด กินไก่หยองได้อะป่าว วันนี้ซื้อไก่เยอะทำขนมปังไก่หยองก็แล้วกัน และแล้วก็ได้เมนูมื้อกลางวันทันใจดีจริง กลับถึงบ้านลงมือเข้าครัว


ส่วนผสม
เนื้ออกไก่ 500 กรัม/เนื้อหมู 500 กรัม
อบเชย 1 แท่ง
โป๊ยกั้ก 1 ดอก
ผงพะโล้ 2 ชช
น้ำตาลแดง 5 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ชช
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
ซีอิ๊วดำ 2 ชต

วิธีทำ
1.นำ อบเชย โป๊ยกั้ก ผงพะโล้ห่อใส่ผ้าขาวบางก่อน ใส่ลงไปในหม้อใส่น้ำให้ท่วมไก่หรือเนื้อหมูยกตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่เนื้อไก่หรือเนื้อหมูลงไป ระหว่างต้มให้ใช้ช้อนค่อย ๆ ตักฟองทิ้งไปจนไม่มีฟอง
2.ใส่น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซีอิ้วดำ เกลือป่น ต้มต่อไปเรื่อยๆจนกระทั้งเนื้อไก่หรือเนื้อหมูเปื่อยยุ่ยดี และน้ำเริ่มแห้ง
3.พอน้ำเริ่มแห้งดีแล้วให้ยีเนื้อไก่หรือเนื้อหมูให้เป็นเส้น ๆ ผัดไปเรื่อย ๆ หรีไฟในเตาลงใช้ไฟอ่อน ผัดจนกระทั้งเนื้อแห้งดี ปิดในไฟ ตักจานพักให้เย็น เสริฟคู่กับขนมปัง หรือจะนำไปทานกับข้าวต้มร้อน ๆ ก็อร่อยเช่นเดียวกัน

***ขนมปังไก่หยองที่บ้านจะทาด้วยน้ำพริกเผาทำเองเหมือนกันของนกเป็นพริกเผาแบบเผ็ด ของแฟนคลับแบบไม่เผ็ด หรือก็ทาเนยแล้วโรยด้วยไก่หยอง หมูหยอง ในรูปนี้เป็นของแฟนคลับค่ะ***



แกงไตปลา/พุงปลาหมักเอง

นกไปเที่ยวทะเลกับแฟนคลับ เลยถือโอกาสตกปลาเสียเลย ได้ปลาซาบะตามที่ตั้งใจไว้แต่ต้น แถมยังตกได้หลายตัวดีใจมาก ๆ เลยละค่ะ แต่หลักใหญ่ๆที่ทำให้ดีใจมากที่สุดเห็นจะเป็นพุงปลาละค่ะ วิธีการหมักไม่ยากค่ะเพื่อน เพียงนำพุงปลามารีดเอา ขี้ปลาไส้ออกให้หมด ล้างพุงปลาให้สะอาดทิ้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นใส่เกลือหมักไว้ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป แม่สอนมาอย่างนั้น อ๋อขวดที่หมักต้องเอาไปต้มฆ่าเชื้อโรคเสียก่อนนะค่ะ ครบกำหนดนำมาปรุงอาหารได้ และแล้ววันที่รอคอยของนกก็มาถึงค่ะ ไตปลาพร้อม ขนมจีนพร้อม เครื่องปรุงพร้อม ลงมือเข้าครัวกันเลยค่ะ



ส่วนผสม
ปลาสด 1 ตัว
ไตปลา 2-3 ชต
ห่อไม้ 1 กป
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
เห็ด 1/2 ถ้วย
มะเขือเปราะหั่นสี่ส่วน ประมาณ 8-10 ลูก
ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 3-4 ดอก
ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ
น้ำเปล่า ตามชอบ ( นกใส่ประมาณ 2 ถ้วย)

ส่วนผสมเครื่องแกง
ขมิ้นผง1 ชช
ข่าหั่น5-6 แว่น
หอมแดง2 หัว
กระเทียม6-8 กลีบ
ตะไคร้หั่นละเอียด 2 ต้น
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
ผิวมะกรูด 1 ชช
พริกไทยเม็ด 1 ชช
เกลือ 1 ชช
กะปิ 1/2 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช.ช

วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ปั่นให้ละเอียด ยกเว้นกระปิ และน้ำตาลไว้โขลกหลังสุดโขลกให้เข้ากัน พักไว้
2. ปลาสด นำมาควักไส้ออกล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปย่างให้สุกแกะเอาแต่เนื้อปลา พักไว้
3. ตักไตปลาใส่ชาม พักไว้ จากนั้นใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งบนเตาใช้ไปปานกลางค่อนข้างแรง รอให้น้ำเดือดใส่ไตปลา ละลายไตปลา กรองใส่หม้อ
4. ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้พอหอม ใส่ผัก ใส่เนื้อปลาย่าง ใส่ใบมะกรูดฉีก ชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใส่ชามยกเสริฟ ทานกับข้าวสวย ร้อน ๆ หรือจะเป็นขนมจีน ค่ะ

*** นี้เป็นพุงปลาที่นกหมักเองค่ะ ภูมิใจสุด ๆ เลยนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันด้วยนะค่ะ



เย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล/ น้ำซอสเย็นตาโฟทำเอง

แฟนคลับเค้าหยุดลาพักร้อน 3 วัน วันนี้เราสองคนไม่มีโปรแกรมจะไปไหนกัน เพราะอากาศคลึ้ม มืด ๆ ไม่ค่อยจะเป็นใจให้ออกไปเที่ยวสักเท่าไร ตัดสินใจพักผ่อนกันที่บ้าน คิดว่าจะทำเมนูอาหารกลางวันอะไรดี ไป ๆ มา ๆ จบลงที่ก๋วยเตียวอีกตามเคย แต่วันนี้ของนกทำพิเศษขอเป็นเย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล ส่วนแฟนคลับขอเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูธรรมดา เพราะไม่กินหอยนางรม กับปลาหมึก งานนี้เสร็จเรา ของอร่อยไม่รู้เสียแล้ว



ส่วนผสม
เส้นก๋วยเตียว ตามชอบ
กระดูกหมู/ไก่ ตามชอบ
กุ้งสด 10-15 ตัว
หอยนางรม 15-20 ตัว
น้ำมันกระเทียมเจียว ตามชอบ
เนื้อหมูต้ม หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
เต้าหู้ทอด หั่นซอย ตามชอบ
หอมผักซีซอยหยาบ 1 ถ้วย
ผักบุ้ง หั่นเป็นท่อน ๆ 10-12 ต้น
ถั่วงอกสด ตามชอบ
น้ำซอสเย็นตาโฟ 1 ถ้วย
ซุปไก่ 1ก้อน (ถ้ามี)


ส่วนผสมน้ำซอสเย็นตาโฟ
เต้าหู้ยี้ 3 ก้อน
ซอสมะเขือเทศ 5 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
ซอสพริก 2 ชต
น้ำเชื่อม 5 ชต
วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่ในหม้อ เปิดไฟในเตา ใช้ไฟแรง พอน้ำเดือดใส่กระดูกหมูหรือไก่ ใส่เกลือ และซุปไก่ก้อนลงไป ชิมรสตามชอบ
2.เอาเต้าหู้ยี้ใส่ถ้วยขยี้ให้พอละเอียดตามชอบ จากนั้นใส่ส่วนผสมน้ำซอสทั้งหมดคนให้เข้ากันพักไว้
3.เอาหม้ออีกใบใส่น้ำตั้งไปให้เดือด ลวก ผักบุ้ง ถั่วงอก เส้นก๋วยเตียว กุ้ง หอยลงไปลวก ให้สุกพักไว้ จากนั้นเอาเส้นก๋วยเตียวที่ลวกสุกแล้วคลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียวพักไว้
4.เอาผักบุ้ง ถั่วงอก ก๋วยเตียว เนื้อหมู กุ้ง หอย ที่ลวกเสร็จแล้วใส่ชามก๋วยเตียว จากนั้นโรยด้วย เต้าหู้ทอด ตักน้ำซุปกระดูกลงในชามก๋วยเตียวตามชอบ
5.ตักน้ำซอสเย็นตาโฟใส่ในชามก๋วยเตียว1-2 ชต จากนั้นโรยด้วยต้นหอมผักชี ยกเสริฟได้เลยค่ะ

แกงจืดเต้าหู้หมูสับผักกาดขาว/เต้าหู้ไข่

จริง ๆ แล้วเมนูนี้เป็นเมนูที่ใคร ๆ ก็ทำกันได้ค่ะ โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็ก ๆ มักจะทำเมนูนี้บ่อยค่ะ แต่ที่นกเอามานำเสนอเพื่อนๆทำวันนี้ ไม่ใช้แกงจืดหรอกนะค่ะ พระเอกตัวจริงวันนี้ก็คือ*** นกว่าเอาไว้เฉลยหลังจากเราเข้าครัวทำแกงจืดเสร็จแล้วดีกว่าค่ะ





ส่วนผสม

เต้าหู้ไข่ หั่นเป็นชิ้นพอคำ 10 ชิ้น

หมูสับ 200 กรัม
ผัดกาดขาวหั่นชิ้นพอคำ 8 ใบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ต้นหอมผักชี หั่นเป็นท่อน ๆ 4 ต้น
พริกไทยป่น 1 ชช
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทรายเล็กน้อย
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ
1.นำหมูสับผสมกับน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากับหมูสับ พักไว้
2.เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ใส่ซุปไก่ก้อนลงไป(นกไม่มีเลยไม่ได้ใช้) พอน้ำเดือดตักหมูสับที่ปรุงไว้เป็นก้อนเล็กๆ ทะยอยใส่ลงไปตามด้วยผักกาดขาว รอจนน้ำเดือดอีกครั้งใส่เต้าหู้ไข่ที่หั่นไว้ใส่ลงไป
3.ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และน้ำตาลทรายเล็กน้อย ต้มพอผักเริ่มสุกใส่ต้นหอมและผักชีที่หั่นเป็นท่อนแล้วใส่ลงไป รอจนน้ำเดือดอีกครั้งแล้วปิดเตาตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกไทยป่นเล็กน้อย ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***หลังจากเพื่อน ๆ อร่อยกับแกงจืดแล้ว ถึงเวลาที่นกจะเฉลยคำตอบพระเอกตัวจริงก็คือ "เต้าหู้ไข่" เห็นหน้าตาแล้วใช้ไม่ค่ะ นกทำเป็นเต้าหู้ไข่ทานเอง ตัดปัญหาเรื่องหาซื้อเต้าหู้ไข่ไม่ได้ ทำเองเสียเลยค่ะ และถ้าเพื่อนคนไหนมีปัญหาเหมือนอย่างนกละก็ ต่อไปไม่ต้องกังวลอีกแล้วค่ะ วิธีการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ว่าแล้วมาทำเต้าหู้ไข่กันเถอะค่ะเพื่อน ๆ



ส่วนผสม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วยตวง
เกลือป่นเล็กน้อย (เพิ่มรสให้เต้าหู้นะค่ะ แต่ถ้าใครอยากได้รสดั่งเดิมก็ไม่ต้องใช้ค่ะ)

วิธีทำ
1.ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้ไข่แดงไข่ขาวเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2.เทน้ำเต้าหู้ และเกลือป่นนิดหน่อยใส่ลงไปในถ้วย (นกซื้อน้ำเต้าหู้สำเร็จรูปแบบไม่มีน้ำตาลมาใช้เลยสะดวกและรวดเร็วดี ไม่ได้ทำน้ำเตาหู้เองหรอกค่ะ )
3.ตีไข่และน้ำเต้าหู้ให้เข้ากัน(นกใช้ช้อนตักฟองออก เวลาเอาไปนึ่งผิวหน้าจะได้เรียบสวยออกมาน่าทานค่ะ)นึ่งประมาณ 35 นาที หรือจนกระทั่งเต้าหู้ไข่สุก ปิดไฟพักไว้จนเย็น เอามาหั่นทำแกงจืดได้เลยค่ะ


เกี้ยวทอด/แผ่นเกี้ยว

อาทิตย์นี้แฟนคลับนกลาพักร้อนอยู่บ้านหลายวันค่ะเพื่อน ๆ นกเลยหาเมนูเบา ๆ ไว้ทานเล่นเป็นมื้อกลางวันแก้เหงาปากค่ะ จริงๆ แล้วเมนูนี้นกทำทานบ่อยมาก ๆ เวลามีเพื่อน ๆ หรือญาติ ๆ มาเที่ยวที่บ้านนะคะ ถึอเป็นเมนูยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ง่ายสะดวก รวดเร็ว แถมเราทั้งสองคนก็ชอบมาก ๆ เหมือนกันคะ



ส่วนผสม
แผ่นเกี้ยว 20 แผ่น (จะใช้เยอะกว่านี้ก็ได้ตามชอบ)
กุ้งสด 15 ตัว
เนื้อหมู/ไก่บดละเอียด 200 กรัม
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ½ ถ้วย
พริกไทย 2 ชชกระเทียมสับ 10 กลีบรากผักชี 2-3 ราก (ไม่มีใช้ก้านผักชีแทนได้ค่ะ)
ต้นหอม / ผักชีหั่นละเอียด ตามชอบ
ซีอิ้วขาว ตามชอบ
น้ำตาล ตามชอบ
วิธีทำ
1.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เข้าด้วยกันพักไว้
2.ล้างปอกเปลือกกุ้งจากนั้นนำมาสับให้ละเอียดแล้วนำไปผสมกับเนื้อหมู/ไก่บดละเอียด แครอท และต้นหมอผักชีหั่นละเอียด คลุกเคล้าให้เข้ากัน เปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาล
3.นำแป้งเกี๊ยวมาแผ่ ตักไส้เกี๊ยวใส่ตรงกลางแผ่น พับครึ่งตามเฉียง (ห่อเป็นรูปคล้ายเรือสำเภาจีน หรือจะพันเป็นแท่ง )ห่อเกี๊ยวจนหมด ผึ่งไว้สัก 5 นาที แล้วนำลงทอดในน้ำมัน ไฟปานกลาง ทอดจนมีสีเหลือสุกสวย หรือจนกระทั้งไส้เกี๊ยวสุก ตักขึ้นซับน้ำมัน เรียงใส่จาน ก็ยกเสริฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย หรือซอสพริกได้เลยค่ะ

*** แผ่นเกี้ยวที่เพื่อน ๆ เห็นนกทำเองค่ะ เพราะหาซื้อไม่ค่อยจะได้ ถ้าต้องการจริง ๆ ต้องสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตนะค่ะ นกเบื่อคอยนะค่ะ เพราะกว่าจะมาความอยากหมดไปแล้วนะค่ะ เลยทำเองเสียเลย สูตรก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมีส่วนผสมไม่กี่อย่างเพียงแต่ต้องให้เวลาในการทำเท่านั้นเองค่ะ ถ้าเพือน ๆ คนไหนมีปัญหาในการหาซื้อแผ่นเกี้ยวไม่ได้ลองเอาสูตรนี้ไปทำนะค่ะ***



ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ตีพอแตก 1 ฟอง
น้ำปูนใส 1 ชช (ถ้ามี)
น้ำเปล่าเล็กน้อย (กะอย่าให้แป้งเหลว)

วิธีทำ
1.นำทุกอย่างใส่ลงในอ่างผสมนวดทุกอย่างให้เข้าด้วยกัน จนกระทั้งแป้งได้ที่ สังเกตดูแป้งจะไม่ติดมือ คลุมด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ พักไว้ประมาณ 15-20 นาที
2.จากนั้นนำแป้งมารีดเป็นแผ่นบางๆ แล้วใช้พายยางกรีดออกเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมตามต้องการค่ะ

****นกเอาภาพขั้นตอนการทำแผ่นเกี้ยวมาให้ชมค่ะ เผื่อว่าเพื่อน ๆ จะมองไม่ออกว่าเป็นอย่างไรนะค่ะ ส่วนน้ำปูนถ้าเพื่อน ๆไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ ***

เต้าหู้ทอด/เต้าหู้แข็ง

เต้าหู้ทอดสูตรไม่ได้มีอะไรพิเศษค่ะ ความพิเศษอยู่ที่ตัวเต้าหู้แข็งค่ะเพื่อน ๆ เต้าหู้แข็งที่เห็นนกทำเองกับมือนะค่ะ รสชาติเหมือนกับที่ซื้อในตลาดเลยละ อย่างพึ่งหัวเราะนกนะว่าทำไม่มีความมานะขนาดนี้ เหตุผลมีข้อเดียวคือหาซื้อเต้าหู้แข็งไม่ได้ แถวบ้านไม่มีร้านขายของเอเซียค่ะ ถ้าอยากได้จริง ๆ ต้องขับรถไปกลับเกือบ 2 ชมไม่คุ้ม แถมนกทานคนเดียวแฟนคลับเค้าไม่ได้ทานกับนกด้วยหรอกค่ะ ทานไม่เป็น ดีแล้วฉันทานคนเดียวก็อร่อยคนเดียว อิ่มไปเลยมื้อนี้





ส่วนผสม
เต้าหู้ขาวแข็ง 1 ก้อน

น้ำมันสำหรับทอด
ผักชี หั่นหยาบ



วิธีทำ
1. หั่นเต้าหู้ให้เป็นชิ้นเๆ ตามชอบ ใส่พริกป่น พักไว้
2. ตั้งกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางจนน้ำมันใกล้จะร้อน นำเต้าหู้ลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ทอดจนหมด จัดใส่จานยกเสริฟร้อน ๆ เป็นของว่างพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ด ได้เลยค่ะ

*** น้ำจิ้มแล้วแต่จะชอบค่ะ ของนกใช้น้ำจิ้มไก่ ผสม ถั่วลิสงคั่วบุบพอแตก โรยหน้าด้วยผักชีซอย ก็อร่อยได้ใจแล้วค่ะ แต่นกมีสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดมาฝาก เพือน ๆ หาใครขยันทำลองสูตรน้ำจิ้มนี้แล้วจะติดใจเช่นเดียวกันค่ะส่วนผสม ก็มี น้ำตาลทรายแดง น้ำมะขามเปียก เกลือป่น พริกป่น และถั่วลิสงคั่วบุบพอแตก ค่ะส่วนขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากค่ะ เคี่ยวน้ำตาลทรายแดง มะขามเปียก เกลือ พริกป่น ด้วยไฟอ่อนจนข้นเหนียว ยกลงพักไว้ให้เย็น เวลาจะรับประทานจึงโรยด้วยถั่วลิสงคั่ว น้ำจิ้มที่ได้จะมีรสเผ็ด เปรี้ยว หวาน กลมกล่อมค่ะ***

หลังจากที่นกเขียนเมนูนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ชิมกัน มีน้องคนหนึ่งหลังไมค์ถึงนกว่านกทำเต้าหู้แข็งได้อย่างไร นกส่งข้อความกับไปพร้อมสูตร นึกขึ้ได้ ว่าที่บล๊อกเอกก็ยังไม่สูตรเหมือนกัน เลยเอามาลงเสียเลยเผื่อเพื่อน ๆชาวครัวอีกหลาย ๆคนสนใจส่วนภาพเต้าหู้แข็งติดไว้ก่อนไว้ทำครั้งต่อไปจะเอามาให้ชมกัน เอาส่วนผสมและวิธีทำกันไปก่อน

ส่วนผสม
น้ำเต้าหู้ 1 กล่อง (รสจืด)
น้ำดีเกลือ 1 ชต (ภาษาอังกฤษเรียกแมกเนเซี่ยมซันเฟท )
พิมพ์ (กล่องพลาสติกขนาดกลาง)
ผ้าขาวบาง

วิธีทำ
1.นำน้ำเต้าหู้มาต้มให้พอร้อนไม่เดือด
2.เทน้ำดีเกลือลงในหม้อที่ละนิดคนให้ทั่ว จากนั้นใส่น้ำดีเกลืออีกและคนให้ทั่ว ทำแบบนี้จนหมดน้ำดีเกลือ สังเกตน้ำเต้าหู้เริ่มจับตัวขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นทิ้งให้น้ำเต้าหู้แยกตัวออกจากน้ำ
3.ตักเต้าหู้ที่แยกตัวใส่ในพิมพ์ที่รองด้วยผ้าขาวกรอง จนพูนเต็มกล่อง ห่อผ้าให้เรียบร้อย ทับด้วยของหนักประมาณ 1 ชม เพื่อไล่น้ำออกจากโปรตีน
4.ครบกำหนดจะได้เต้าหู้แข็ง นำเต้าหู้ที่ได้ไปนึ่งสักครู่จน (จับดูเต้าหู้ร้อนทั่วก็ใช้ได้) จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่กล่องปิดฝา นำเข้าแช่ตู้เย็น รอนำไปปรุงอาหารตามชอบได้เลย

***เต้าหู้ที่เราทำเองสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นประมาณ 8-9 วัน***


หมูสับผัดไข่เค็ม/ไข่เค็ม (Salted Eggs/Khai Kham)




ส่วนผสม
ไข่เค็มหั่นเป็นชิ้นเล็ก 2 ฟอง
หมูสับ 200 กรัม
แครอทหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
ต้นหอม+ผักชี ซอย 4 ค้น
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชช
กระเทียมสับ 1 ชต
พริกไทยป่น 1 ชช

วิธีทำ
1.ตั้งกะทะบนเตาใส่น้ำมันพอร้อนใส่กระเทียมสับลงไปผัดพอให้หอม
2.ใส่หมูสับลงไปผัดให้พอสุก ใส่แครอทลงไปผัด คลุกๆพอเข้ากัน ผัดจนกระทั้ง
แครอทสุก
3.ใส่ไข่เค็มลงผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย (ซีอิ้วขาวใส่นิดหน่อยเพราะไข่รสชาติเค็มอยู่แล้ว) ชิมรสตามชอบ เสร็จแล้วปิดเตา ใส่ต้นหอม+ผักชีลงไปผัดคลุกให้พอเข้ากัน จากนั้นโรยด้วยพริกไทป่นซักนิดหน่อย แล้วก็ตักใส่จาน ยกเสริฟ ทานคู่กับข้าวต้มร้อนๆ หรือข้าวสวยก็ได้ค่ะ

***ต้องขอบอกเพื่อน ๆ ค่ะว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำให้นกต้องมานั่งทบทวนวิชา เรื่องการทำไข่เค็มค่ะ ด้วยเหตุว่าหาไข่เค็มไม่ได้เลยต้องอาศัยความรู้เก่าสมัยประถมมาใช้หากินอีกครั้ง งานนี้ต้องยกความดีให้แก่ครูอาจารย์ค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไม่มีไข่เค็มก็เอาวิธีการทำไข่เค็มนี้ไปใช้ก็ได้นะค่ะ






ไข่เค็ม (Salted  Eggs/Khai Kham)
สิ่งที่เตรียม มีดังนี้
เกลือ
น้ำเปล่า
ไข่เป็ด หรือ ไข่ไก่ (นกหาไข่เป็ดไม่ได้ทำไข่ไก่ค่ะอร่อยเหมือนกันค่ะ)
ขวดขนาดพอเหมาะกับจำนวนไข่ที่จะดอง

วิธีทำ
1.ต้มน้ำเกลือ โดยใช้อัตราส่วน1ต่อ3(เกลือ 1 ถ้วย และน้ำ 3 ถ้วย) ต้มให้เดือด จากนั้นพักให้เย็น
2.เอาขวดที่ใช้ดองไข่ลวกน้ำร้อนให้เชื้อโรคตายเสียก่อนค่ะ
3.ล้างไข่ให้สะอาด ปล่อยให้สะเด็ดน้ำ แล้วบรรจงใส่ไข่ลงไปในขวดที่ละใบ ระวังอย่าให้แตกหรือมีรอยร้าวนะค่ะ
4.นำน้ำเกลือที่ต้มเดือดและพักให้เย็นแล้วใส่ลงไปในโหลระวังอย่าให้ไข่ลอยเหนือน้ำเป็นอันขาดไม่งั้นไข่จะเน่า ให้หาอุปกรณ์มากดทับไว้(นกใช้ถุงพลาสติกใส่เกลือวางไว้ก่อนปิดฝา ถุงเกลือจะช่วยให้ไข่จมลงไปใต้น้ำเกลือ นะค่ะ เท่านี้ก็ได้ไข่เค็มทานสมใจแล้วค่ะ)

***ไข่เค็มที่ทำถ้าต้องการเอามาทอดประมาณ 5 วัน ก็เอามาทอดได้แล้วค่ะ ความเค็มกำลังดี แต่ถ้าจะเอามาต้มทานละก็ต้องประมาณ 12-14 วันแต่เป็นไข่ไก่นะค่ะ ถ้าเพื่อน ๆทำไข่เป็ดต้องดองเอาไว้นานหน่อยคะประมาณ 18-20 วัน ถึงจะเค็มได้ที่จริง ๆ เปลือกไข่ต่างกันค่ะ (แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มั่นใจว่าเค็มหรือไม่ลองเอามาต้มชิมดูก่อนสักฟองก็ได้ค่ะ ถ้าไม่เค็มก็ดองต่อไปอีกสักหน่อยกะประมาณไข่เค็ม เค็มได้ทีถูกใจคนทานนะค่ะ)ส่วนนี้ก็เป็นไข่เป็ดที่ดองไว้เช่นกันค่ะ จะต้มหรือจะทอดแล้วแต่จะชอบนะค่ะ นกมีให้เลือกทั้งสองแบบ***